มารีอา โดเมนิกา มัสซาแรลโล หรือ มาอิน เกิดที่มอร์เนเซ ตำบลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในแคว้นเปียตมอนต์ ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1837 บิดามารดาได้มอบมรดกอันมีค่ายิ่งกว่าทรัพย์ศฤงคารใด ๆ ทั้งสิ้นของโลกนิ้แก่ท่านนั่นคือ ความรักต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทและต่อพระแม่มารีย์ ท่านทั้งสองเป็นชาวไร่ชาวนาที่นอกจากจะขยันขันแข็งในการทำมาหาเลี้ยงชีพดุจสามัญชนทั้งหลายแล้วยังเป็นคริสตชนที่ศรัทธา เชื่อมั่นในศาสนา มาอินจึงเติบโตขึ้นในบรรยากาศที่ศรัทธาเป็นผู้ที่มีความเข้มแข็งทั้งสุขภาพ และจิตวิญญาณ
เนื่องจากท่านเป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว จึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบิดามารดาทั้งการทำงานในไร่องุ่น และดูแลน้อง ๆ อีก 9 คน แม้จะมีงานล้นมือแต่ความรักต่อพระทำให้ท่านยกจิตใจ สนทนากับพระองค์ในการภาวนาตลอดทั้งวัน และพยายามก้าวหน้าในคุณธรรมความดี ปรับปรุงสิ่งบกพร่องในตนเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอ เมื่ออายุ 15 ปี ท่านสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมธิดาแม่พระนิรมลทิน และได้เริ่มงานแพร่ธรรมท่ามกลางเด็กหญิงของหมู่บ้าน ในปี 1860 โรคไทฟอยด์ได้ระบาดอย่างรุนแรงในหมู่บ้าน ขณะนั้นมาอินมีอายุ 23 ปี ท่านได้สมัครไปช่วยพยาบาลครอบครัวหนึ่งซึ่งเป็นญาติกัน ขณะที่ช่วยคนอื่นให้หายจากโรค ท่านกลับติดโรคร้ายดังกล่าวจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด หลังจากป่วยหนักอยู่ 2 เดือนท่านก็หายจากโรคแต่สุขภาพอันแข็งแกร่งของท่านก็สลายไปด้วย ท่านไม่สามารถกลับไปทำงานในไร่องุ่นได้ดังเดิมอีกต่อไป สภาพการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดรอยประทับฝ่ายจิตใจที่ลึกซึ้ง ท่านตระหนักว่าตนเองนั้นอ่อนแอไม่สามารถทำสิ่งใดที่หนักเกินกำลังได้จึงได้มอบตนเองแด่พระเจ้าโดยสิ้นเชิง ท่านเริ่มไปเรียนตัดเย็บจากช่างคนหนึ่งในหมู่บ้าน พร้อมกับ เพื่อนสนิทชื่อ เปโตรนิลลา โดยตั้งปณิธานไว้ว่าจะเปิดร้านเย็บเสื้อผ้าของตนเอง เพื่อรับบรรดาเด็กหญิงในหมู่บ้านมาเรียน และฝึกงาน ขณะเดียวกันก็จะสอนพวกเขาให้สวดภาวนา รักพระเจ้า และเป็นคริสตชนที่ดี
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่กรุงตุริน คุณพ่อบอสโกได้ตั้งคณะนักบวชชายขึ้นโดยมีชื่อว่า คณะซาเลเซียนเพื่ออบรมเยาวชนชาย คณะนี้ได้เจริญก้าวหน้า และทำความดีแก่เยาวชนชายจำนวนมากมาย วันหนึ่งคุณพ่อบอสโกได้นิมิตว่ามีเยาวชนหญิงจำนวนมากมายที่ขาดคนดูแล พวกเขากำลังเล่นกันตามถนน ฉับพลันพระมารดาได้ประจักษ์มา และบอกกับท่านว่า “จงเอาใจใส่พวกเขาเถิด พวกเขาก็เป็นลูกของแม่เหมือนกัน” ท่านจึงเริ่มคิดถึงโครงการที่จะจัดตั้งคณะนักบวชหญิง ซึ่งจะมีจิตตารมณ์เดียวกับคณะซาเลเซียนชายเพื่อดูแล เอาใจใส่เยาวชนหญิงที่ยากจน และถูกทอดทิ้ง คณะนักบวชนิ้จะเป็นดังอนุสาวรีย์ทรงชีวิตแห่งความกตัญญูรู้คุณที่คุณพ่อท่านมีต่อพระมารดา
พระญาณสอดส่องของพระเจ้าได้นำท่านให้มารู้จักกับคุณพ่อบอสโก ท่านทั้งสองได้ร่วมกันสถาปนาคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ท่านได้พิสูจน์ตนเองในฐานะมหาธิการิณีสูงสุดคนแรกของคณะว่าเป็นผู้อบรม และอาจารย์ที่เชี่ยวชาญ ด้านชีวิตภายใน สามารถถ่ายทอดจิตตารมณ์ซาเลเซียนแบบสตรีที่มากด้วยความคิดสร้างสรรค์ เป็นผู้นำที่มีใจเมตตา ร่าเริงยินดี และพากเพียรอดทน มีความสามารถในการสร้างมิตรภาพแท้ที่นำสมาชิก และเยาวชนให้ค้นพบโครงการของพระเป็นเจ้า และมีความสุขใจในการอุทิศตนรับใช้ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน (ใครไม่รู้แก้เอาไว้หนูว่าดีนะคะ)
ระยะเวลาเพียง 9 ปี ในชีวิตนักบวชท่านสามารถนำพาคณะให้เจริญก้าวหน้าทั้งด้านความศักดิ์สิทธิ์ และภารกิจมากมายทั้งในอิตาลี และต่างประเทศ ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ.1881 ท่านได้สิ้นใจอย่างศักดิ์สิทธิ์กลับไปยังเคหาสน์ของพระบิดา สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ได้ทรงประกาศแต่งตั้งท่านเป็นบุญราศีในปี ค.ศ.1938 และสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ทรงสถาปนาท่านเป็นนักบุญ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1951
cr. http://fma.or.th/thaifma/?page_id=562